คลัง คาดให้แพลตฟอร์ม ส่งข้อมูลจากร้านค้าออนไลน์ ช่วยรัฐมีรายได้เกิน 1 หมื่นล้าน

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีเป้าหมายจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 67 อยู่ที่ 2.78 ล้านล้านบาท ถือว่ามีความท้าทายเป็นอย่างมาก โดยเป็นการวัดฝีมือของกรมจัดเก็บภาษีหลัก ได้แก่ กรมสรรพากร กรมสรรสามิต และกรมศุลกากร ซึ่งในส่วนของกรมสรรพากร ล่าสุดได้มีการออกประกาศ กำหนดให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มที่จดทะเบียนในไทย และมีรายได้ในรอบบัญชีเกิน 1,000 ล้านบาท ต้องยื่นบัญชีพิเศษ ที่แสดงข้อมูลรายรับของอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม ที่ได้รับจากผู้ประกอบการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มาให้ เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 เป็นต้นไป

สำหรับการออกประกาศดังกล่าว จะทำให้ผู้เสียภาษีเข้ามาสู่ระบบมากขึ้น และส่งผลให้ร้านค้าขายของออนไลน์เข้ามาอยู่ในระบบมากกว่าเดิม ซึ่งเดิม แพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีรายได้ 1,000 ล้านบาท ต้องมาเสียภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% แต่ขณะนี้กรมสรรพากรเดินหน้าเพิ่มเติม โดยให้แพลตฟอร์มออนไลน์นำส่งข้อมูลด้วยว่า รายได้ 1,000 ล้านบาท มาจากใครบ้าง ฉะนั้น กรมจะเห็นข้อมูลร้านค้า และสามารดึงร้านค้าเข้าระบบภาษีได้ คาดว่าการออกประกาศดังกล่าวจะสามารถจัดเก็บภาษีได้เกิน 1 หมื่นล้านบาท

ส่วนกรณีจะมีปัญหาเรื่องกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ กฎหมายดังกล่าว ได้รับการยกเว้นในเรื่องภาษี มิฉะนั้น จะไม่สามารถดำเนินการได้ กรณีแลกข้อมูลการตรวจคนเข้าเมืองระหว่างประเทศ รวมทั้งการแลกข้อมูลรายได้ของผู้เสียภาษีทั้งโลก ก็สามารถทำได้คำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น

นายลวรณกล่าวต่อว่า จึงขอแนะนำให้ผู้ประกอบการออนไลน์ให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษีจะดีที่สุด โดยระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว โดยไม่ได้เก็บภาษี 7% จากรายได้ทั้งหมด แต่เป็นการเก็บภาษี 7% บนกำไร ฉะนั้น จึงขอให้ผู้ค้าออนไลน์เข้าระบบและทำการเสียภาษีให้ถูกต้อง เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆก้าวหน้าไปมาก ทำให้โลกใบนี้แคบลงเรื่อยๆ ทุกอย่างเชื่อมโยงด้วยข้อมูล เมื่อก่อนอาจจะเป็นการตามไม่ได้ แต่จะช้าจะเร็วก็เจอแน่นอนคำพูดจาก ทดลองสล็อต pg

“ขณะนี้ยังมีคนเข้าใจผิดเยอะ เช่น ขายสินค้า 100 บาท ต้องเสียภาษี 7 บาทเลยหรือไม่ ซึ่งบางทีกำไรอาจจะแค่ 5 บาท ซึ่งถ้าเสียภาษี 7% ร้านค้าจะอยู่ได้อย่างไร ความจริงแล้ว ของขายประมาณ 100 บาท มีต้นทุนมา 90 บาท และต้องเสียภาษี 7% ของกำไร 10 บาท ก็เท่ากับ 70 สตางค์ คุณยังมีกำไร 5 บาทเท่าเดิม”

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่ขายของออนไลน์ หรือสตาร์ทอัพในปัจจุบันนี้ ทุกคนก็อยากเสียภาษีให้ถูกต้อง ฉะนั้น กรมสรรพากรก็ต้องมีหน้าที่ทำระบบภาษีให้ง่าย มีระบบบริการที่ดี โดยทิศทางในการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร ก็จะเดินไปพร้อมกับการพัฒนาระบบผู้ให้บริการด้านภาษีไปด้วยกัน